TH

19 November 2021

ส่องกล้องมอง ‘นก’ ที่โรงกลั่นบางจาก

สมดุลระบบนิเวศกลางใจเมือง

‘นกที่พบเห็นได้ในพื้นที่โรงกลั่นบางจากนี้ มีหลากหลายให้พบเห็นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 80 ชนิด ทั้งนกอพยพหลายชนิดและนกประจำถิ่นในเมือง ซึ่งเจอได้ตามสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ’

พรรณี ตั้งเจริญบำรุงสุข ประธานชมรมดูนกบางจากฯ หนึ่งในชมรมยอดนิยมจากหลากหลายกิจกรรมพนักงานภายใน ‘บ้านบางจาก’ เล่าถึงงานอดิเรกสุดโปรดของเธอท่ามกลางบรรยากาศยามเย็น ณ โรงกลั่นบางจาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสพบเห็นนกอพยพนานาชนิดมากกว่าช่วงอื่น ๆ ของปี แต่ข้อเสียคือจะเป็นช่วงที่มืดเร็ว แต่เราสามารถดูนกได้ที่บริเวณโรงกลั่นบางจากเลย เลิกงานแล้วก็แวะดูได้ใกล้ ๆ ไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทางต่อไปที่สวนสาธารณะต่าง ๆ เพราะอาจไม่ทันช่วงเวลาโพล้เพล้ซึ่งนับเป็นหนึ่งในช่วงเวลาทองของการดูนก

พรรณี กับอุปกรณ์คู่ใจที่สำคัญในการดูนก คือ กล้องส่องทางไกลและคู่มือดูนก

นกอพยพที่เคยเห็นที่นี่มีทั้ง นกกระเต็นน้อยธรรมดา ที่อพยพมาสู่ประเทศไทยในช่วงฤดูหนาวของทุกปี จึงได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าชายแห่งนักอพยพ” เหยี่ยวเพเรกริน ที่มักเกาะอยู่ตรงหอกลั่น คอยโฉบกินสัตว์ขนาดเล็กและแมลง และ นกเดินดงหัวสีส้ม

นกกระเต็นน้อยธรรมดา
เหยี่ยวเพเรกริน
นกเดินดงหัวสีส้ม
ภาพนกนานาชนิดที่พบได้ในโรงกลั่น ถ่ายโดยพนักงานบางจากฯ

ส่วนนกประจำถิ่นในเมืองที่พบได้บ่อยที่นี่จะมี นกตีทอง หรือ นกโพระดกพันธุ์เล็ก ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีนกเมืองจากมงกุฎสีแดงสดบนส่วนหัว นกกินปลีอกเหลือง นกเขาเปล้าคอสีม่วง นกอีแพลดแถบอกดำ และ นกสีชมพูสวน ซึ่งส่วนใหญ่นั้นไม่เพียงมีรายละเอียดและสีสันสวยงามบนลำตัว แต่มีเสียงไพเราะไว้คอยขับกล่อมผู้คนที่แวะเวียนมาเยือนอีกด้วย

นกเขาเปล้าคอสีม่วง
นกตีทอง

อากาศดี อาหารมี พื้นที่ปลอดภัยของนกนานาชนิด

ด้วยความหลากหลายของพื้นที่ภายในโรงกลั่น ที่มีทั้งสวนขนาดใหญ่ บึง ต้นไม้ ดอกไม้ ลานทุ่ง ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ของน้ำและอาหาร อากาศดี โดยมีการตรวจวัดคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่องและรายงานผลอย่างโปร่งใส ได้มาตรฐานจากหน่วยงานภายนอก ทำให้โรงกลั่นน้ำมันบางจากกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนก คล้ายจุดพักเวลานกบินมาเหนื่อย ๆ

พรรณี ขยายความถึงที่มาของนกหลากหลายชนิดที่มีให้เห็นรอบพื้นที่โรงกลั่นต่อว่า หลัก ๆ เลยคือเรื่องของอากาศ ระบบนิเวศรอบโรงกลั่น และอาหารที่หลากหลาย ทำให้พบเห็นมีนกหลากชนิดเข้ามาอาศัยพักพิง มีต้นไม้ออกลูกสำหรับนกกินลูกไม้หรือผลไม้ มีต้นไม้ดอกสำหรับนกกินน้ำหวานดอกไม้ อาทิ นกกินปลีอกเหลือง มีลานถังที่เหมาะสำหรับนกทุ่ง มีพื้นที่โล่งกว้างสำหรับนกกินแมลงบินโฉบหาอาหาร มีดวงไฟสำหรับนกกินแมลงที่ชอบหากินกลางคืน และยังมีบึงน้ำ และ บ่อบำบัดน้ำทิ้ง (ซึ่งผ่านการบำบัดเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด) สะอาดจนสามารถเลี้ยงปลาได้และกลายมาเป็นแหล่งชุมนุมของนกกินปลา เช่น จำพวกนกกระเต็นที่พากันมาเกาะรอบขอบบ่อบำบัดน้ำทิ้ง

แหล่งดูนกชั้นเยี่ยมใจกลางกรุง

พรรณี ย้อนรำลึกถึงบทบาทการทำหน้าที่ผู้นำดูนกแก่ผู้สนใจ ณ บริเวณรอบโรงกลั่นบางจากว่า โรงกลั่นบางจาก เป็นบ้านและที่พักของนกอพยพหลากหลายชนิดมานานแล้ว ยิ่งเมื่อก่อนที่บางจากฯ เคยจัดกิจกรรมดูนกให้ลูกค้าปั๊มน้ำมันผู้สนใจที่มักจะมากันเป็นครอบครัว โดยมีพนักงานใน ‘บ้านบางจาก’ ซึ่งผ่านการอบรมหลักสูตรผู้นำดูนกเป็นผู้นำชม เกือบทุกคนค่อนข้างแปลกใจแกมยินดี เพราะส่วนใหญ่แล้วพอได้ยิน คำว่าโรงกลั่นจะนึกไปถึงภาพของเครื่องจักร ถังเก็บน้ำมัน กระบวนการผลิตที่ซับซ้อน หรือ หลายคนอาจนึกถึงภาพคล้ายกับโรงงานอุตสาหกรรม แต่เมื่อได้เข้ามาเยี่ยมชมต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า โรงกลั่นน้ำมันบางจากแตกต่างไปจากที่หลายคนคิดเอาไว้มาก เพราะที่นี่มีพื้นที่สีเขียว ทั้งเหล่านกน้อยใหญ่และผู้คนได้พักหายใจ จนเคยเป็นหนึ่งในจุดสำคัญของการดูนกในกรุง สำหรับผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเรื่องนกและระบบนิเวศ

สวนภายในโรงกลั่นบางจาก

“หลัง ๆ มานี้เราไม่ได้จัดกิจกรรมดูนกอีก หลัก ๆ ก็เพราะข้อจำกัดในการใช้พื้นที่ เช่น การก่อสร้างโครงการต่าง ๆ แต่จนถึงทุกวันนี้ นกที่นี่ยังมีอยู่เยอะ ที่รู้สึกว่าลดหายไปบ้างตามกาลเวลาอาจจะเป็นนกชนิดที่หากินตามพื้นดิน แต่โดยภาพรวมแล้วนกยังอาศัยพักพิงในโรงกลั่นอยู่เหมือนเดิม เพราะที่นี่ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยไม่ค่อยมีใครรบกวน” เธอกล่าว

โรงกลั่นบางจากแตกต่างจากที่หลายคนนคิดเอาไว้มาก
เพราะที่นี่มีพื้นที่สีเขียว
ทั้งเหล่านกน้อยใหญ่และผู้คนได้พักหายใจ

สำหรับ ‘บ้านบางจาก’ แล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมาบนเส้นทางผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยให้ความสำคัญควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นมาโดยตลอด และมีการร่วมแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นวิกฤตเร่งด่วนในระดับโลก ด้วยการตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปีค.ศ. 2050 โดยมีเป้าหมายสำคัญเป้าหมายแรกคือความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปี 2030

พื้นที่โรงกลั่นบางจาก ไม่เพียงใช้ดำเนินธุรกิจ แต่ยังเป็นเสมือนระบบนิเวศขนาดย่อมที่ยังโอบอุ้มดูแลผู้คนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ อย่างบรรดานกน้อยใหญ่ที่เข้ามาพักพิงมาตลอด 37 ปีที่ผ่านมา เพราะตระหนักดีว่าการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันใน Ecosystem ที่ยังคงรักษาความสมบูรณ์ของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า และพร้อมทั้งส่งต่อโลกอันน่าอยู่ให้กับคนรุ่นหลังได้อย่างยั่งยืน