EN

09 กุมภาพันธ์ 2567

จาก “วินโนหนี้” - พี่วินไม่มีหนี้ ดีต่อสิ่งแวดล้อม

สู่การส่งต่อความห่วงใยและเอาใจใส่ตลอดการเดินทางผ่าน “ปิ่นโต”

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า วินโนหนี้ และจุดสับเปลี่ยนแบตเตอรี่

การเดินทางนับเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต ซึ่งกำลังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ทุกๆ ฝ่ายต้องร่วมกันคิดหาหนทางบรรเทาปัญหา “วินโนหนี้” คืออีกคำตอบของการใช้พลังงานสะอาดที่เติบโตสู่การส่งมอบประสบการณ์การเดินทางแบบ First Mile to Last Mile ให้การใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายใกล้ตัวมากขึ้นสำหรับทุกคน

“ใช้วินโนหนี้มาเกือบ 3 ปีแล้ว ไม่ผิดหวังกับการขับขี่ ความเร็วไม่ตก ไม่ว่าแบตเตอรี่จะลดลงเหลือเท่าไหร่ ที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายลดลงไปมาก ถึงจะวิ่งรถเท่าเดิมหรือพักบ้างก็ยังมีเงินเหลือเก็บ ปิดประตูรายจ่ายผมแน่นอน” กิตติศักดิ์ หมื่นภักดี ผู้ใช้วินโนหนี้ที่มากด้วยประสบการณ์บอกเล่าถึงการใช้งาน

รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า วินโนหนี้ และจุดสับเปลี่ยนแบตเตอรี่

Win-Win Solution ชีวิตที่ดีขึ้น โลกที่ดีขึ้น และประเทศที่ดีขึ้น

วินโนหนี้ เป็นสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่รายแรกในประเทศไทย เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2563 สอดรับกับกระแสการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยชื่อที่สื่อความหมายในการลดภาระหนี้สิน ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ถือเป็น Win-Win Solution ใน 3 ด้าน

ชีวิตผู้ขับขี่ดีขึ้น - จากวันนั้น ปัจจุบันวินโนหนี้มีผู้ใช้งานกว่า 1,000 ราย ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติจำนวน 120 สถานี ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็น Win-Win Solution คือ ช่วยให้ผู้ขับขี่ชีวิตดีขึ้นลดค่าใช้จ่าย จากการเช่าใช้ประมาณเดือนละ 4,000 บาท หรือ 48,000 บาทต่อคนต่อปี

โลกดีขึ้นจากการใช้พลังงานสะอาด - ด้วยระยะวิ่งใช้งานรวมกว่า 42 ล้านกิโลมตร ทำให้วินโนหนี้ได้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ไปประมาณ 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่าแล้ว (หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 166,700 ต้น) ทั้งยังลดการเกิดฝุ่น PM 2.5 และมลภาวะทางเสียง

ประเทศดีขึ้น - จากสตาร์ทอัพที่ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยคนไทย เกิดการพัฒนาคนและสร้างงานในประเทศ

จาก “วินโนหนี้” - พี่วินไม่มีหนี้ สู่ “ปิ่นโต” - ส่งต่อความห่วงใยและเอาใจใส่

การเดินทางของวินโนหนี้ เพื่อช่วยให้ “พี่วินไม่มีหนี้” ได้เติบโตเป็นขั้นตอน จากการเปิดตัวในปี 2563 สู่ระดมทุน Series A เมื่อต้นปี 2565 สู่การร่วมทุนกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “ปิ่นโต” ในช่วงต้นปี 2567 นี้ ภายใต้ความหมายที่สื่อถึงการเป็นรากฐานให้กับกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ที่ผนวกรวมความมั่นคงเรื่องรายได้ การทำธุรกิจ และมีชีวิตความเป็นอยู่ เข้ากับสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมแห่งความรัก การส่งต่อความห่วงใยและเอาใจใส่ และภาชนะใส่อาหารที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้เสมอ เปรียบเสมือนการใช้พลังงานขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผู้ประกอบอาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ สามารถเช่าซื้อ “ปิ่นโต” ในการให้บริการแก่ผู้โดยสารบีทีเอสให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อด้วยพลังงานไฟฟ้าตลอดเส้นทาง หรือ First Mile to Last Mile ตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านจนถึงกลับบ้านด้วยบริการขนส่งสาธารณะไฟฟ้า อีกขั้นของการเพิ่มประสบการณ์จากวินโนหนี้ที่เคลื่อนที่จากจุดสู่จุด (point to point) สู่การเชื่อมโยงด้วยพลังงานสะอาด ตลอดเส้นทาง ตอบโจทย์การเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด ร่วมบรรเทาภาวะโลกร้อนและสร้างระบบนิเวศคาร์บอนต่ำ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบางจากฯ ในปี 2593

พิธีเปิดตัวและปล่อยขบวนรถ Ev Bike ปิ่นโต ณ สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต

ก้าวต่อไป... ผู้นำแพลตฟอร์มแบตเตอรี่

จากความสำเร็จที่เริ่มจากจุดเล็กๆ สู่ภาพที่ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยวินโนหนี้ตั้งเป้าเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Battery as a Service (BaaS) สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพิ่มจำนวนผู้ใช้งานเป็น 60,000 รายและสถานี 3,000 แห่งในปี 2573 เพื่อรองรับความต้องการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด สนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม มากกว่านั้นคือรูปธรรมที่จับต้องได้ในการดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่ “ดีต่อเราและต่อโลก”

“ขับขี่ไม่มีควันและเสียงกวนใจ ช่วยลดภาระ แถมได้มีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมของคนในกรุงเทพดีขึ้น” นายกิตติศักดิ์กล่าวปิดท้ายการใช้ชีวิตแบบ “โนหนี้” ด้วยความภูมิใจในการใช้พลังงานสะอาด ผ่านการขับขี่ด้วยคอนเซ็ปต์ร่วมอนุรักษ์โลก

ความคิดเห็นและเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานวินโนหนี้

ขับขี่ไม่มีควันและเสียงกวนใจ ช่วยลดภาระ แถมได้มีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมของคนในกรุงเทพดีขึ้น

- คุณกิตติศักดิ์ หมื่นภักดี -

ใช้วินโนหนี้มาใช้ประมาณ 2 ปีกว่าตั้งแต่รุ่นแรก รู้สึกโชคดีที่ได้วินโนหนี้มาใช้ เพราะน้ำมันตอนนี้แพงมาก หารายได้ยาว ๆ ไม่ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงรักษา ที่ชาร์จแบตสะดวกมีหลายที่ เปลี่ยนง่าย

- คุณไพจิตร เชื้อจำพร -

ขับสะดวก มีเงินเก็บ ประหยัดได้มากขึ้น ชาร์จแบตง่าย ใช้งานมา 3 ปีแล้ว รู้สึกว่าดีกว่าใช้รถที่เติมน้ำมัน

- คุณสุริยา หวานแท้ -

ขับสบาย ใช้รถมาแล้ว 2 ปี รู้สึกได้ว่าประหยัดขึ้นมาก สะดวกกว่าใช้รถน้ำมัน เหลือเงินในกระเป๋ามากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องมีค่าบำรุงรักษา

- คุณอรรคพงษ์ แสงมาศ -