EN

12 เมษายน 2567

เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมขยับ...ขับเคลื่อนไปด้วยกัน

“ทอดไม่ทิ้ง” และ “ไม่ทอดซ้ำ” สู่การผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF

จากจุดเริ่มต้น “รับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้ว” เพื่อนำไปผลิตไบโอดีเซลของกลุ่มบริษัทบางจาก ในฐานะผู้นำพลังงานทดแทน เมื่อ 17 ปีที่แล้ว นับจากปี 2550 เพื่อแก้ไขปัญหาการทิ้งน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้วไม่ถูกวิธี ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำไปใช้ซ้ำเป็นผลเสียต่อสุขภาพ วันนี้ กลุ่มบริษัทบางจาก ในฐานะผู้นำพลังงานแห่งอนาคต ได้ยกระดับการรับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหาร สู่การนำไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel SAF ผ่านโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” และต่อยอดสู่ “ไม่ทอดซ้ำ” รณรงค์ให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ สร้างทางเลือกในการบริโภคอาหารปลอดภัยให้แก่ประชาชน จากผู้ขายอาหารที่ได้ใบประกาศนียบัตรโครงการไม่ทอดซ้ำ

“รู้สึกดีใจแทนคนไทยและเพื่อนมนุษย์... วันที่ผู้บริหารบางจากฯ ไปพบดิฉันที่กรมอนามัย แล้วบอกว่า จะชวนคุณหมอขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ที่มีน้ำมันผลิตจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว...เราตัดสินใจง่ายมากที่จะร่วมด้วยทันที เพราะเห็นประโยชน์ และถ้าจะขยับไปข้างหน้าได้ ต้องร่วมมือกัน”

แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย เผยความรู้สึกในวันลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ” ระหว่าง บางจากฯ และกรมอนามัย

“เรารู้ว่า ‘ไม่ทอดซ้ำ’ ดีต่อสุขภาพ แต่พอรู้ว่าจะเอาน้ำมันใช้แล้วไปผลิตน้ำมันเพื่อใช้กับเครื่องบิน ยิ่งทำให้ดีใจ เป็นการเริ่มต้นที่น่ายินดีมาก บางจากฯ มี ‘ทอดไม่ทิ้ง’ อยู่แล้ว กรมอนามัยต้องการรณรงค์ไม่ให้มีการทอดซ้ำ ถือว่าเป็นสองโครงการที่เกื้อกูลกัน พอมาร่วมมือกันต้องบอกว่า ช่วยได้มาก เพราะไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพอย่างเดียว แต่เราห่วงใยไปถึงสิ่งแวดล้อม”

อธิบดีกรมอนามัยย้ำถึงการร่วมมือครั้งนี้ว่า “โครงการไม่ทอดซ้ำ มีความเชื่อมโยงสำคัญกันถึง 3 ด้าน คือ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ถือเป็นการเปิดตัวโครงการเพื่อกระตุกทุกภาคส่วนให้รับทราบ โดยเฉพาะการเห็นประโยชน์จากโครงการนำน้ำมันใช้แล้วไปขายได้เงินกลับมา เขาก็กล้าที่จะตัดสินใจว่า “ไม่ทอดซ้ำก็ได้” ประชาชนเองได้ประโยชน์รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ไม่มีสารอันตรายต่อสุขภาพ”

การขับเคลื่อนที่จะนำพา ‘ไม่ทอดซ้ำ’ ไปสู่เป้าหมายนั้น แพทย์หญิงอัจฉราบอกว่า อันดับแรกคือเรื่องของ ‘จิตสำนึก’ ซึ่งอยากให้ทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสิ่งดีๆ ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมสะอาด ปลอดภัย ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ ควรคำนึงถึงเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ปรุงอาหารด้วยการไม่ทอดซ้ำ ส่วนน้ำมันใช้แล้วสามารถนำไปขายเพื่อเป็นการลดต้นทุนได้อีกด้วย ดีต่อโครงสร้างทั้งระบบ

นอกจากนี้ อธิบดีกรมอนามัยยังมองถึงประเด็นสำคัญด้านกฎหมายในอนาคต อาทิ พรบ.อาหารสะอาด พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงเรื่องการไม่ทอดซ้ำ นำไปสู่การลดหย่อนภาษีได้ไหม ซึ่งหากกฎหมายเอื้อไปด้วยกัน จะสามารถทำให้ขยับได้เร็วขึ้น

ในส่วนของร้านอาหารที่ต้องการประกาศนียบัตร โครงการ ‘ไม่ทอดซ้ำ’ ต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์โดยขายน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วให้บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก) หรือ บริษัท ธนโชคน้ำมันพืช (2012) จำกัด อย่างสม่ำเสมอ 6 เดือนขึ้นไป และใช้น้ำมันประกอบอาหารที่มีค่าสารโพลาร์เกิน 25% ของน้ำหนักน้ำมัน โดยจะมีการตรวจสอบก่อนรับรองโครงการ

เรียกว่าการมีป้าย ‘ไม่ทอดซ้ำ’ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้แน่นอน “อยากเห็นป้าย ‘ไม่ทอดซ้ำ’ พรึ่บทั้งแผ่นดิน..ถ้าได้เห็นแบบนั้น ประชาชนก็สบายใจได้ คนไทยติดกับความอร่อย โดยเฉพาะอาหารประเภททอด ปิ้ง ย่าง อยากให้คำนึงว่า อร่อยได้แต่ต้องปลอดภัยด้วย เพราะน้ำมันทอดซ้ำ มีผลต่อสุขภาพทำให้เกิดโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง และมีสารก่อมะเร็งด้วย”

“กระทรวงสาธารณสุขเพียงกระทรวงเดียว ไม่สามารถทำงานเพื่อดูแลสุขภาพประชาชนได้ครบวงจร เพราะสุขภาพของประชาชนจะดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมด้วย ต้องขอบคุณบางจากฯ ที่มีโครงการดีๆ ทำให้เห็นแสงสว่าง นอกจากการไม่ทอดซ้ำส่งผลดีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อมกัน”

ไม่เพียงอธิบดีกรมอนามัย แต่เชื่อว่าคงมีหลายคนนับถอยหลังรอ..ขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ที่บินด้วย SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว จากสองโครงการพี่น้อง “ทอดไม่ทิ้ง” กับ “ไม่ทอดซ้ำ” ของกลุ่มบริษัทบางจาก

ร่วมสร้างโลกยั่งยืน ส่งต่อสุขภาพที่ดี ด้วยโครง “ทอดไม่ทิ้ง” และ “ไม่ทอดซ้ำ”

ทอดไม่ทิ้ง:

รณรงค์ให้ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจอาหารไม่ทิ้งน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วลงสู่พื้นที่สาธารณะ ป้องกันป้องกันปัญหาจากการทิ้งของเสียอย่างไม่ถูกวิธีที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โครงการทอดไม่ทิ้งริเริ่มโดยกลุ่มบริษัทธนโชค ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทุนในบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก) และบีเอสจีเอฟนำมาต่อยอดเพื่อขยายเครือข่ายในการรับน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหาร

ไม่ทอดซ้ำ:

รณรงค์ให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ สร้างทางเลือกในการบริโภคอาหารปลอดภัยให้แก่ประชาชน โดยผู้บริโภคสามารถสังเกตได้จากร้านอาหารที่ได้รับใบประกาศนียบัตรโครงการ “ไม่ทอดซ้ำ”

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโลกที่ยั่งยืน

ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปรุงอาหารจากครัวเรือน หรือจากผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร ควร “ไม่ทอดซ้ำ” ก่อนจะนำไป “ทอดไม่ทิ้ง” โดยน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากทั้งครัวเรือนและร้านอาหาร สามารถนำไปขายได้ที่สถานีบริการบางจาก 162 แห่งทั่วประเทศ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 84 สาขา ต่างจังหวัด 78 สาขา สแกน QR Code เพื่อศึกษารายละเอียด) หรือจุดรับซื้อที่บริษัทฯ กำหนด โดย บีเอสจีเอฟ จะนำไปผลิต SAF ที่ตอบโจทย์โมเดลเศรษฐกิจ BCG ทั้ง Bio-Circular-Green Economy

Scan ดูรายชื่อและพิกัด สถานีบริการบางจากที่ร่วมโครงการ