08 สิงหาคม 2568
B24 Marine Biofuels โดย BSRC
จุดประกายอนาคตการเดินเรืออย่างยั่งยืน รายแรกของไทย

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล หรือ Marine Environment Protection Committee (MEPC) ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ International Maritime Organization (IMO) ได้ประกาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี ค.ศ. 2050 เพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเดินเรือทั่วโลก ทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปยัง ทางออกในด้านพลังงานสะอาดที่จะตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ หนึ่งในคำตอบนั้นคือ B24 Marine Biofuels น้ำมันเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทรที่ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังพร้อมใช้งานจริงในระดับอุตสาหกรรม


วันนี้ บางจากหลากมุมมอง ได้รับเกียรติจาก คุณอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC มาแบ่งปันถึงการพัฒนา B24 Marine Biofuels ที่ BSRC เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย รายแรกในประเทศไทย และแนวทางที่ธุรกิจพลังงานไทยสามารถเดินหน้าอย่างยั่งยืนได้จริง
พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตของการเดินเรือ
คุณอนุวัตรเล่าให้ฟังว่า B24 Marine Biofuels คือน้ำมันเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทร ที่มีส่วนผสมของเมทิลเอสเทอร์ที่สังเคราะห์จากน้ำมันปรุง อาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil Methyl Ester หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า UCOME) ในอัตราส่วน 24% ผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ 0.5%S (Very Low Sulphur Fuel Oil VLSFO) มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการปล่อยมลพิษต่ำ และเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่สามารถใช้ทดแทนเชื้อ เพลิงฟอสซิลได้โดยตรง ซึ่งการนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในลักษณะ circular economy นี้ ไม่เพียงช่วยลด การพึ่งพาพลังงานฟอสซิล แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตั้งแต่ต้นทางของกระบวนการผลิต

รักษ์โลกได้มากกว่า ด้วยมาตรฐานที่ไม่เปลี่ยนแปลง
B24 Marine Biofuels จาก BSRC คือผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงเรือเดินสมุทรรายแรกของประเทศไทย ที่ได้รับมาตรฐาน ISO 8217 รับ รองการใช้งานกับเครื่องยนต์เรือได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องมีการดัดแปลงเครื่องยนต์ หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านเชื้อเพลิงของเรือ และได้รับ การรองมาตรฐานด้านความยั่งยืน International Sustainability and Carbon Certification (ISCC EU) โดยมีความพร้อมในการ จำหน่ายให้ลูกค้าทั่วโลก
“ลูกค้ารายแรกของเราคือบริษัท NYK Line จากประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในบริษัทขนส่งทางเรือชั้นนำของโลก ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพ และความพร้อมของ B24 Marine Biofuels สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์” คุณอนุวัตรกล่าว

ตอบโจทย์ธุรกิจ เดินหน้าสู่อนาคต
คุณอนุวัตรเล่าต่อว่า ในอดีต เรือเดินสมุทรส่วนใหญ่ใช้น้ำมันเตา เนื่องจากน้ำมันดีเซลมีราคาสูงกว่า แต่ในเรื่องของการเผาไหม้ น้ำมันเตานั้น ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ดี ด้วยภาวะปัจจุบันของโลก ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศ อุตสาหกรรมการเดินเรือก็ต้องมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในฝั่งยุโรปที่มีนโยบายชัดเจนด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ เชื้อเพลิงกลุ่ม B24 ไปจนถึง B30 กลายเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ทำได้จริง และคุ้มค่า เมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น อย่างเช่น การติดตั้งตัว ดักจับกำมะถัน (Scrubber) บนเรือ หรือการใช้น้ำมันกำมะถันต่ำแบบพิเศษ

BSRC ขับเคลื่อนพลังงานไทยด้วยวิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืน
โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา ของ BSRC พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเรือเดินสมุทรหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ High Sulphur Fuel Oil, Low Sulphur Fuel Oil, Marine Gas Oil และในปัจจุบันมี B24 Marine Biofuels โดยในอนาคตยังมีแนวโน้มการขยายผลิตภัณฑ์สู่สูตร B30 ซึ่งมีสัดส่วนเชื้อเพลิงชีวภาพสูงขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
เราเชื่อว่าอนาคตของธุรกิจพลังงานจะต้องเชื่อมโยงกับความรับผิดชอบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อม การพัฒนา B24 Marine Biofuels คือก้าวสำคัญของ BSRC ในการสร้าง สมดุลระหว่างความสามารถในการแข่งขันเชิงพาณิชย์ กับการขับเคลื่อนเป้าหมายของ กลุ่มบริษัท บางจากที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ หลากหลาย พร้อมช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
- คุณอนุวัตร รุ่งเรืองรัตนากุล - ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC
ในขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทบางจากยังคงเดินหน้าพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อรองรับการเดินทางในหลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงแค่ภาคการเดินเรือ แต่ยังครอบคลุมถึงการขนส่งทางบก ผ่านผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล B100 และทางอากาศ ด้วยการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง โดยหน่วยผลิตดังกล่าวยังสามารถเลือกผลิตเป็น Renewable Diesel หรือ Green Diesel ได้อีกด้วย สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างทางเลือกด้านพลังงานสะอาดที่ครอบคลุมการเดินทางทั้งทางบก น้ำ และอากาศอย่างยั่งยืน

