EN

20 สิงหาคม 2564

แม่ ที่เป็นมากกว่าแม่

"บางจากฯ ไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่คือสถานที่เรียนรู้ของลูกเราด้วย"

ความร่มรื่นของ 'โรงกลั่นน้ำมันบางจาก'
ที่ทำงานของแม่แมะ ที่ที่คุ้นเคยของน้องออย จนเป็นที่มาของชื่อเธอ

การเป็นแม่ที่เป็น ‘คนทำงาน’ ด้วย ในยุคสมัยนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ศรีชา รัตนพิบูลย์ (แมะ) พนักงานกลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก็สามารถรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย โดยที่ไม่ทิ้งบทบาทหน้าที่แม่ของลูกสาวคนเดียว อภิรชา รัตนพิบูลย์ (น้องออย) ที่สนิทกันเหมือนเพื่อน จนคนรอบข้างสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของแม่-ลูกคู่นี้

คุณแม่แมะกับน้องออยพูดคุยกับเราใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในโรงกลั่นบางจาก สถานที่ที่ทั้งสองคุ้นเคย น้องออย บอกเราว่ากำลังศึกษา อยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สาขาพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล “เพราะอยากดูแลคนไข้ และพร้อมดูแลคนในครอบครัวค่ะ”

ส่วนแม่แมะ เมื่อน้องออยเริ่มต้นแนะนำตัวเองโดยพูดถึงการศึกษา ก็แสดงสีหน้าภูมิใจอย่างเห็นได้ชัด “ไม่ได้ตั้งเป้าหรือวางแผนให้ลูกขนาดนั้น แต่เราก็ดูเขาอยู่ห่างๆ เรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัย เราก็ดูจากคะแนนสอบ ความตั้งใจของเขา อยากให้เขาเลือกในสิ่งที่เขาอยากเรียน ชอบและมีความสุขในสิ่งนั้น สุดท้ายคนเป็นแม่ เราก็แค่อยากให้ลูกมีอาชีพ มีงานทำ ไม่เกเร ก็พอแล้ว คงเป็นสไตล์การเลี้ยงลูกในแบบของตัวเอง เราเลี้ยงลูกสไตล์เป็นเพื่อนกัน เราคุยกันแบบเพื่อน สนิทกันจนทุกวันนี้ บางครั้งลูกไม่เรียกเราว่า แม่ แล้วนะ ลูกเรียก แมะๆ ไปแล้ว” แม่แมะเล่าด้วยน้ำเสียงแกมหัวเราะ

แม่แมะเล่าถึงการตั้งชื่อลูกว่า “ออย” นั้นที่มาที่ไป เพราะเธอทำงานที่บางจากฯ พบรักกับพ่อของน้องออยก็ที่บางจากฯ และบางจากฯ ทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมัน ก็เลยตั้งชื่อลูกสาวว่าออย ครอบครัวเราผูกพันกับบางจากฯ มาก ตัวเธอเองทำงานที่นี่มากว่า 25 ปีแล้ว “ถ้ารู้สึกไม่ดีคงไม่อยู่นานขนาดนี้” แม่แมะยิ้มพร้อมเล่าต่อ

“บางจากฯ คอยดูแลเรามาตลอด ตั้งแต่เข้าทำงาน พอเรามีลูก บางจากฯ ก็มาดูแลลูกเราเพิ่มด้วย อย่างตอนลูกเด็กๆ ก็ช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาล พอลูกโตมาหน่อย มีช่วยค่าเล่าเรียน หรือค่าทำฟันซึ่งสมัยก่อนค่าทำฟัน จะเบิกได้แค่พนักงาน แต่บางจากฯ เขาก็ใส่ใจคนในครอบครัวเราด้วย พอมีลูก ลูกก็สามารถเบิกค่าทำฟันได้ และยังมีอีกหลายเรื่องที่บางจากฯ ช่วยดูแลทั้งการศึกษาและเรื่องอื่นๆ”

น้องออย เล่าเสริมต่อว่า “หนูสัมผัสได้ว่า แม่รักและผูกพันกับบางจากฯ มาก ตั้งแต่หนูเด็กๆ นอกจากจะเห็นแม่นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์บ่อยๆ แล้ว หนูก็เห็นมุมที่แม่ไปทำกิจกรรมของบริษัทหลายอย่าง ทั้งสายบันเทิง สร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่น งานพิธีกร หนูเห็นแม่ทำหมด โดยเฉพาะสายกีฬา แม่ชอบมาก ชมรมวอลเล่ย์บอล ชมรมวิ่ง แม่เข้าร่วมหมด”

วันเด็กบางจากฯ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว

“หนูร่วมกิจกรรมบางจากฯ จนลุงๆ ป้าๆ บางจากฯ คงจำหนูกันได้หมดละค่ะ อย่างกิจกรรมครอบครัวเดียวกันที่สอนพี่ๆ ลุงป้าน้าอาในชุมชนรอบโรงกลั่น ให้ทำกิจกรรมงานเย็บปักถักร้อย ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หนูไปกับแม่บ่อย ไปช่วยแจกอุปกรณ์ ส่วนงานวันเด็กบางจากฯ หนูมาทุกปี ตั้งแต่สมัยมีตู้สติ๊กเกอร์ให้ถ่ายรูป สนุก ชอบมาก ตอนเด็กๆ เราสนุกตามวัย พอโตขึ้น หนูได้มาเป็น Staff ช่วยแม่ ดูน้องๆ ที่ฐานเล่นเครื่องเล่นค่ะ ก็สนุกไปอีกแบบ”

“หนูเหมือนแม่เรื่องการพูด พูดเก่ง ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่น อยู่โรงเรียน เป็นสายกิจกรรม เหมือนแม่ เป็นพิธีกร ตลกเหมือนกันด้วยค่ะ” น้องออยเสริมโดยมีคุณแม่นั่งฟังอย่างมีความสุข ก่อนที่แม่แมะจะทิ้งท้ายของการพูดคุยวันนี้เรื่องงานและครอบครัว เพราะบางคนอาจคิดว่าการทำงานเต็มตัวในองค์กร อาจมีผลต่อ Work-Life Balance แต่เธอนั้นบอกว่า

โครงการครอบครัวเดียวกัน

“บางจากฯ ไม่ได้ทำให้เวลาที่ต้องอยู่กับครอบครัวเสียไป คำว่าสมดุลระหว่างงานกับชีวิตครอบครัวอยู่ที่ความเหมาะสมของเราเอง เราเลือกเองได้ อย่างช่วงเวลาที่ลูกต้องการเราจริงๆ เราก็ต้องเลือกอยู่กับลูกมาก่อน โดยไม่ให้เสียงาน หรือช่วงไหนที่เราพร้อมทำงาน เราช่วยบริษัทได้ เราก็ช่วยเต็มที่ โดยไม่ให้มีผลกระทบกับครอบครัวเช่นกัน”

การทำงานที่บางจากฯ ไม่ได้ทำให้เวลา
ที่ต้องอยู่กับครอบครัวเสียไป
คำว่าสมดุลระหว่างงานกับชีวิตครอบครัว
อยู่ที่ความเหมาะสมของเรา

กิจกรรมที่โรงเรียนของลูก แม่ก็ไปร่วมงานด้วยเสมอ
แม่-ลูกคู่นี้ ลูกเป็นเพื่อนกับเพื่อนแม่ ในขณะเดียวกับแม่ก็เป็นเพื่อนของเพื่อนลูก

“กิจกรรมที่หนูได้ไปทำกับแม่ที่บางจากฯ หนูถือว่าได้อยู่กับแม่ แล้วแม่ก็ช่วยบริษัทไปด้วย หนูว่าอันนี้มันสมดุลแล้ว” น้องออยเสริม เป็นมุมดีๆ ที่สะท้อนความรู้สึกของลูกสาวคนหนึ่งในเดือนแห่งวันแม่นี้

เมื่อขอให้ปิดท้ายด้วยประโยคของลูกสาววัยรุ่นที่จะบอกรักแม่ โดยไม่มีคำว่ารัก น้องออยก็กล่าวว่า “ในทุกๆวัน หนูอยากให้แม่กินข้าวให้อิ่ม นอนให้หลับ แค่นี้พอค่ะ” เป็นการส่งท้ายที่เรียกรอยยิ้มให้กับทุกคน

การลาคลอด กฎหมายกำหนดสิทธิ์ลาคลอดได้ไม่เกิน 98 วันต่อการตั้งครรภ์ 1 ครั้ง และกำหนดให้นายจ้าง จ่ายค่าจ้างให้ 45 วัน ส่วนจำนวนวันที่เหลือ นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างระหว่างลาหรือไม่ก็ได้

ที่บางจากฯ เราจ่ายค่าจ้างให้พนักงานครบเต็มจำนวนตามเท่าที่พนักงานใช้สิทธิ์ลาคลอดจริง เพื่อเป็นการสนับสนุนการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ ในการดูแลบุตรของพนักงาน