TH

22 January 2020

บางจากฯ ห่วงใย... ร่วมดูแลคนไทยในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5

จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในปัจจุบันที่กระจายตัวอยู่ในชั้นบรรยากาศ ครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และยังคงมีปริมาณหนาแน่นและอาจแพร่กระจายไปถึงต่างจังหวัดอื่นๆ ด้วยนั้น โดยปัจจุบันภาครัฐ เอกชน พร้อมด้วยประชาชนทุกภาคส่วนต่างร่วมกันหาวิธีป้องกัน รณรงค์ให้ความรู้และวิธีปฏิบัติตัวแก่ประชาชนคนไทย เพื่อป้องกันตนเองในการเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว

ในฐานะที่เป็นองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ด้านพลังงาน ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมไทย และให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมตลอดระยะเวลา 35 ปีของการดำเนินธุรกิจ นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบัน เรากำลังรับมือกับสภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศสะสมเกินค่ามาตรฐาน จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ บางจากฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคนไทย โดยได้ดำเนินการต่างๆ ดังนี้

ดูแลสุขภาพพนักงาน สื่อสารให้ข้อมูล
บางจากฯ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารให้พนักงานทราบถึงข้อมูลคุณภาพอากาศและแนะนำการดูแลตัวเอง ออกมาตรการและแนวปฏิบัติในสถานการณ์ PM 2.5 อนุญาตให้พนักงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทำงานที่บ้านได้ รวมถึงจัดให้มีป้ายแสดงคุณภาพอากาศแสดงผลออนไลน์ 2 จุด ที่ด้านหน้าโรงกลั่นน้ำมันบางจาก และบริเวณตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อแสดงผลตรวจวัดคุณภาพอากาศ สื่อสารให้สาธารณชนรับทราบถึงการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโรงกลั่น ว่ามีความปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมรอบข้าง

แจกหน้ากาก N95 ป้องกันฝุ่น
เมื่อสถานการณ์ PM 2.5 เริ่มรุนแรงขึ้น บริษัทฯ ก็ได้แจกหน้ากาก N95 ให้กับพนักงานทันที และเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารและเพื่อนพนักงานจิตอาสาร่วมกับผู้บริหารจากสำนักงานเขตพระโขนงและเขตบางนา ได้มอบหน้ากาก N95 ให้แก่เพื่อนบ้านชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก รวม 10 ชุมชน และแฟลตทหาร 1 แห่ง เพื่อแสดงความห่วงใยต่อสุขภาพของเพื่อนบ้านของเรา

ปรับคุณภาพน้ำมันดีเซล
ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2562 ถึง 31 มกราคม 2563 บางจากฯ ได้ปรับคุณภาพ ยกระดับน้ำมันดีเซลทุกชนิดของบางจากให้เป็นมาตรฐาน EURO 5 ที่มีค่าซัลเฟอร์ต่ำกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน และค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับ EURO 4 ซึ่งจะช่วยลดมลภาวะฝุ่นควันและฝุ่น PM 2.5 ได้จัดจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมันบางจากในกรุงเทพมหานครในราคาเท่าเดิม

ทั้งนี้ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงสะอาดตั้งแต่ต้นทาง ทำให้น้ำมันบางจากทุกลิตรที่ได้จากการผลิตมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการปล่อยมลพิษ อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) และฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint Reduction) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

งดกิจกรรมกลางแจ้งในวันเด็ก 2563
สำหรับกิจกรรมวันเด็ก 2563 ที่ผ่านมา บางจากฯ ได้ปรับรูปแบบจากเดิมที่เคยจัดมากว่า 30 ปี ที่กิจกรรมจะอยู่บริเวณกลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่ โดยงดกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อลดโอกาสในการสัมผัสกับอากาศที่มีฝุ่นที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง แจกหน้ากาก N95 ให้ผู้ร่วมงานและให้สาระความรู้เกี่ยวกับ PM 2.5 ผ่านนิทรรศการ ซึ่งแม้จะปรับลดกิจกรรมไป แต่ลูกหลานและผู้ปกครองก็ยังมีความสุขกับความบันเทิงที่เราจัดให้ผ่านกิจกรรมต่างๆ และของที่ระลึกรักษ์โลก

ปลูกต้นไม้โดยพนักงานและโครงการ “แก้วเพาะกล้า”
บางจากฯ ร่วมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ปฏิบัติการ ช่วยเพิ่มออกซิเจน ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ทำให้สภาพอากาศดีขึ้น ด้วยการจัดกิจกรรมให้พนักงานปลูกต้นไม้ในพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันบางจากในเดือนเกิด รวมถึงสนับสนุนการปลูกต้นไม้ในระดับประเทศผ่านโครงการ “แก้วเพาะกล้า” ร่วมกับกรมป่าไม้ เชิญชวนให้ลูกค้านำแก้วเครื่องดื่มอินทนิลย่อยสลายได้ที่บริโภคแล้วมาคืนที่ร้าน เพื่อรวบรวมส่งมอบให้กับกรมป่าไม้นำไปใช้สำหรับเพาะชำต้นกล้าไม้ทดแทนการใช้ถุงพลาสติก ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมและลดปัญหาขยะพลาสติก

ที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่บางจากฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว และเรายังพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ ผมขอเชิญชวนให้พวกเราป้องกันตัวเองจากฝุ่นด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งครับ” นายชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย