คาร์บอนไดออกไซด์
เทียบเท่า
Environment Standards / Guideline
Environmental management system | ISO 14001:2015 |
Energy management system | ISO 50001:2018 / Solomon Energy Intensity Index |
Water management | Water Stress Index (WSI) / ISO14046 Water Footprint |
Waste management | Reduce, Reuse & Recycle (3Rs) |
Environmental Dimension Targets
Environmental Management Program
การจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่ออรรถประโยชน์สูงสุด (Operational Eco-efficiency)
บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในกระบวนการผลิตอย่างคุ้มค่า ให้กำลังการผลิตสูงสุดแต่เกิดของเสียและมลพิษน้อยที่สุด มีระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14001: 2015 ซึ่งครอบคลุมทั้งการใช้ทรัพยากรและควบคุมมลพิษ เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายใต้นโยบายเชิงรุก สอดคล้องตามเกณฑ์อุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Industry Level 5: Green Network) และส่งเสริมแนวทางการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมไปยังผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน ชุมชนและผู้บริโภค เพื่อผลักดันไปสู่การเป็นเครือข่ายสีเขียว (Green Network) และเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมจนเกิดเป็น วัฒนธรรมองค์กรในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม
ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ
การสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ใช้ประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ หรือ Eco-efficiency เป็นดัชนีชี้วัด ซึ่งบริษัทฯ ได้ใช้รายได้ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่าย (EBITDA) สะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และใช้ปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของอุตสาหกรรมปิโตรเลียม สะท้อนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ค่าประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจที่สูงจะแสดงถึงการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง และมีผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ต่ำ
หมายเหตุ : EBITDA และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (ขอบเขต 1 และ 2) ของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นฯ และกลุ่มธุรกิจตลาด
การใช้พลังงาน
พลังงานเป็นต้นทุนที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรก็ตามการใช้พลังงานสร้างผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ และตั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 7 (SDG 7) และ 13 (SDG 13) เพื่อลดผลกระทบจากการใช้พลังงานและการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญและผลกระทบของการใช้พลังงานดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ จึงได้นำระบบการจัดการพลังงานตามมาตรฐานสากล ISO 50001 มาใช้ในการจัดการพลังงาน ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและศูนย์จ่ายตั้งแต่ปี 2557 และ ปี 2562 นี้บริษัทฯ เป็นบริษัทรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 50001: 2018 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการจัดการพลังงานสู่มาตรฐานสากลและเป็นรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

กลุ่มบางจากฯ พร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งสู่สังคม คาร์บอนต่ำ ด้วยการกำหนดแผน BCP NET ครอบคลุม
4 แนวทาง
เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมาย
Carbon Neutrality ในปี 2573 และ Net Zero ในปี 2593 ขององค์กร
โดยเน้นกระบวนการที่จับต้องได้และสามารถหวังผลในระยะยาวดังนี้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Low-Carbon Product)
บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนผสมของ เอทานอล และไบโอดีเซล ในทุกผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ซึ่งทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อเครื่องยนต์ ดีต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 และยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
ปริมาณการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเติมน้ำมันผ่านบัตรสมาชิกบางจาก
การขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โครงการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งด้วยรถขนาดใหญ่ (กึ่งพ่วง)
บริษัทฯ บริหารจัดการรถขนส่งด้วยการเปลี่ยนจากรถเดี่ยว 2 คัน เป็นรถกึ่งพ่วงขนาดใหญ่ (40,000 ลิตร) นอกจากช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้แล้ว ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยน้ำมัน

ร้อยละการขนส่งผลิตภัณฑ์ด้วยรถขนาดใหญ่กึ่งพ่วง และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
การบริหารจัดการน้ำ
บริษัทฯ ในฐานะอุตสาหกรรมพลังงานที่มีการใช้น้ำสูง ได้ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างมากในการ บริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้กำหนดเป้าหมายการลดการใช้น้ำ และควบคุมการใช้น้ำใหม่ รวมถึงบริหารจัดการน้ำด้วยแนวทาง เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการน้ำ Water Stress Index (WSI) ทั้งระดับ 25 Watersheds ของประเทศไทย และ WSI ระดับโลก(1) เพื่อใช้ในการประเมิน Water Scarcity Footprint ของผลิตภัณฑ์ ของบริษัทฯ ตามแนวทาง ISO 14046
ร้อยละของการลดการใช้น้ำประปาใหม่เทียบกับความต้องการใช้น้ำในปีนั้นๆ (ร้อยละและปริมาณน้ำที่ลดได้)
*เทียบข้อมูลจากปีฐาน 2558 จากผลรวมของน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่จากการนำน้ำควบแน่น (Condensate Water) คุณภาพดีมาใช้ซ้ำที่หม้อต้มไอน้ำและภายในหน่วยกลั่นที่ 4 รวมกับ การนำน้ำจากหน่วยบำบัดน้ำทิ้งมาปรับปรุงคุณภาพเพิ่มเติมด้วยระบบรีเวอร์สออสโมซิส และการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดจากหน่วยบำบัดน้ำทิ้งมาปรับปรุงคุณภาพเพิ่มเติมด้วยระบบ รีเวอร์สออสโมซิสไปใช้ที่หอหล่อเย็น
การรั่วไหลของน้ำมันและสารเคมีที่มีนัยสำคัญ (ครั้ง) (มากกว่า 100 บาร์เรล/ครั้ง)
การป้องกันและจัดการการรั่วไหล
บริษัทฯ ตระหนักถึงความเสี่ยง ผลกระทบ จากการรั่วไหลของน้ำมันและสารเคมีจากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ดังนั้นบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยในทุกกระบวนการทำงาน รวมถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกกิจกรรมของบริษัทฯ ไม่ให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันและสารเคมี ส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การขนส่งน้ำมันดิบจากเรือขนส่งมายังโรงกลั่นบางจาก เพื่อเข้ากระบวนการกลั่นน้ำมัน จนถึงการขนส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันไปยังคลังน้ำมัน จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า
การจัดการมลพิษอากาศ
ปัญหามลพิษอากาศเป็นประเด็นสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมพลังงานที่สามารถส่งผลกระทบด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ประกอบกับปัญหาฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ที่ปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงขึ้นในประเทศไทย บริษัทฯ ตระหนักและให้ความสำคัญอยู่เสมอในการดูแลและควบคุมคุณภาพอากาศที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม โดยจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน ผู้รับเหมาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โรงกลั่น รวมถึงชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่โดยรอบโรงกลั่นและพื้นที่ปฏิบัติงานของบริษัทฯ
ควบคุมการปลดปล่อยมลพิษให้ไม่เกิน 80% ของค่าควบคุม
การจัดการของเสียและวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรอย่างคุ้มค่าถึงที่สุด โดยดำเนินการตามหลัก 3Rs (Reuse, Reduce & Recycle) ในการใช้ประโยชน์ของของเสียอย่างคุ้มค่า ทั้งในพื้นที่สำนักงานและภายในโรงกลั่นฯ ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนาต่อยอดแนวคิด 3Rs สู่ 5Rs และ 7Rs ตามลำดับ ได้แก่
- Reject: การปฏิเสธการใช้วัสดุหรือสารเคมีที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- Recovery: การนำทรัพยากรที่มีคุณค่าที่อยู่ในของเสียกลับมาใช้ประโยชน์
- Rethink: การคิดใหม่ให้รอบด้านเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ก่อนทิ้งหรือกำจัด
- Repurpose: การเปลี่ยนวัสดุที่ใช้แล้วให้กลับมามีคุณค่าอีกครั้งด้วยวิธีการใช้ประโยชน์รูปแบบอื่น
เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทบางจากได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล ISO 14001 มาใช้และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ โดยจะมีการดำเนินการตรวจสอบของเสียอย่างเป็นระบบ ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถระบุโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการของเสียในทุกกระบวนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ บริษัท ฯ มีเป้าหมายการจัดการของเสียไม่ให้มีการฝั่งกลบเกิดขึ้น (Zero Waste to Landfill) ควบคู่ไปกับเป้าหมาย การกำจัดของเสียด้วยวิธีการเผาที่ไม่มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Incineration without Energy Recovery) เท่ากับ 0 ตัน และลดการเกิดของเสียต่อหน่วยการผลิต (Waste Generation Intensity) ให้ได้ร้อยละ 3 ภายในปี 2568
ผลการดำเนินงานปี 2567
The Refinery and Trading Business Group (RFBG) has implemented a Zero Waste to Landfill policy and has successfully achieved this target since 2015. To support this policy, the SHEE Promotion team has actively worked to raise employee awareness on waste reduction and the importance of zero waste to landfill. Each year, RFBG summarizes its performance data related to Zero Waste to Landfill for inclusion in the Sustainability Report, certified by a third party. In 2021, RFBG was awarded the Zero Waste to Landfill Certificate by the Department of Industrial Works.
การจัดการของเสียตามหลัก 3Rs ของปริมาณของเสียทั้งหมด
ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity)

การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพและพื้นที่ป่าไม้
การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการรบกวนระบบนิเวศต่างๆ ในธรรมชาติ ก่อให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศ และก่อให้เกิดผลกระทบต่อมนุษย์ ทั้งในแง่คุณภาพชีวิต เช่น การลดลงของแหล่งอาหาร และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น ผลิตภาพที่ลดลงจากสภาพพื้นที่ที่สูญเสียพันธุ์พืชและสัตว์ บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพทั้งเชิงบวกและลบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยกำหนดให้ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นประเด็นสำคัญในนโยบายการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม
การเปิดเผยรายงาน EIAs / SIAs
การละเมิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม
การละเมิดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม | 2564 | 2565 | 2566 | 2567 |
---|---|---|---|---|
ข้อละเมิดกฎหมาย (กรณี) | 0 | 0 | 0 | 0 |
ค่าปรับ (บาท) | 0 | 0 | 0 | 0 |
หนี้สินค้างจ่าย ณ สิ้นปี (บาท) | 0 | 0 | 0 | 0 |
มาตรฐานอาคารสีเขียว
Leadership in Energy and Environmental Design : LEED เป็นมาตรฐานอาคารสีเขียวที่เกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อมรวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร ที่ถูกพัฒนาโดย U.S.Green Building Council (USGBC) เพื่อประเมินผลประสิทธิภาพอาคาร ในด้านการออกแบบ, การก่อสร้างและการใช้งานอาคาร
อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท บางจากฯ ได้รับใบรับรอง LEED ในระดับ Platinum โดยเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยที่ได้รับใบรับรองในประเภท LEED for Commercial Interior (LEED CI) บนพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สำหรับงานตกแต่งภายในเชิงพาณิชย์ โดยอาคารสำนักงานมีการตกแต่งด้านสถาปัตยกรรม ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมออกแบบและก่อสร้างโดยคำนึงถึง การประหยัดพลังงาน น้ำ การดูแลคุณภาพอากาศ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ผู้ใช้อาคาร และสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร
กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม
กลุ่มบางจากฯ กับเส้นทาง Blue Carbon ในทะเลตะวันออก
ลดขยะต้นทางกับบางจากฯ
กิจกรรม Road Show และ Workshop คัดแยกขยะ
โครงการคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิล
โครงการพอ พัก ผัก อาคาร M-Tower
บางจากฯ ร่วมภาคีเครือข่าย จัดงานวันหิ่งห้อยโลก คุ้งบางกะเจ้า ประจำปี 2567 ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
Financial Times ประกาศให้บางจากฯ เป็นองค์กรชั้นนำด้านสภาพภูมิอากาศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Climate Leaders 2024) บริษัทไทยรายแรกและหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมพลังงานและสาธารณูปโภค